วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความรัก ..รองเท้า..


ความรัก กะ รองเท้าที่ไม่พอดี
วันหนึ่ง .........ฉันอยากได้รองเท้า ฉันเดินเข้าไปในร้านที่มีรองเท้าหลากสี-หลายแบบวางเรียงราย


ร้ า น แ ล้ ว ร้ า น เ ล่ า

แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้รองเท้าถูกใจกลับไปด้วยแม้แต่คู่เดียว

เลือกแล้ว__________ เลือกอีกจนในที่สุดก็มาหยุดอยู่หน้ากระจกร้านหรูแห่งหนึ่ง

รองเท้าส้นสูงสีส้มคู่นั้นสะท้อนเงาเฉิดฉายผ่านกระจกออกมาแตะตาฉันตั้งแต่แรกเห็น
มันช่างเป็นรองเท้าที่สวยจนอยากมีไว้ประดับคู่เท้าในทุกย่างก้าว


โดยไม่รอรี......ฉันเดินตรงลิ่วเข้าไปหามัน

แม้ป้ายราคาเล็ก-เล็กที่ติดเอาไว้จะบอกราคาที่ไม่เล็กนัก

แต่ฉันไม่ลังเลสักนิดเดียวที่จะจ่ายเงินจำนวนนั้นออกไปเพื่อให้ได้รองเท้าที่ถูกใจที่สุดในวันนี้

แน่นนิดนึงนะคะ...มีคู่ใหม่ที่ใหญ่กว่านี้มั้ย

ฉันถามพนักงานขายขณะที่กำลังพยายามสอดเท้าลงไปในรองเท้าคู่สวยให้พอดี แล้วพบว่ามันพอดิบ-พอดีจนขยับเท้าไม่ได้


ไม่มีหรอกค่ะ....เรามีแบบละคู่เท่านั้น รับรองว่า ใส่แล้วไม่ซ้ำแบบใคร'

พนักงานขายเสนอข้อได้เปรียบในการซื้อสินค้า

'แต่ดิฉันว่าใส่แล้วก็พอดีนะคะ เผื่อมันยืดออกอีกนิดหน่อย'

เธอยังคงเสนอต่อเมื่อเห็นแววตาที่ฉันชื่นชมสินค้าของเธอ

- - เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านด้วยรอยยิ้มกรุ่นพร้อมกับรองเท้าคู่สวยที่อยู่ในมือ - -

ฉันจัดแจงโยนรองเท้าผ้าใบคู่เก่าที่ใส่มาแรมปีทิ้งไปอย่างไม่แยแส

วันรุ่งขึ้น ............ ..ฉันออกเดินด้วยรองเท้าคู่ใหม่อย่างเฉิดฉาย

ยิ่งมีใครต่อใครชมว่ามันสวยนักหนาฉันก็ยิ่งปลื้มใจ


ทว่าไม่ทันข้ามวันรองเท้าเจ้ากรรมก็แผลงฤทธิ์จนฉันเดินโขยกเขยก

และเย็นวันนั้นฉันก็ต้องกลับมาบ้านพร้อม กับเท้าที่ระบม

ห า ก ชี วิ ต ค น เ ร า เ ป็ น เ ห มื อ น ก า ร เดิ น ท า ง ไ ก ล

ความรัก _________________ก็คงเป็นเหมือน "รองเท้า"

แ ท้ ที่ จ ริ ง แ ล้ ว น่ ะ น ะ

..............

ฉันว่าคนเราไม่ได้ต้องการ 'รองเท้าสวย' มากไปกว่า


- - รองเท้าที่ใส่สบาย - - 
แต่ก็นั่นแหละ ใคร-ใครก็ย่อมชอบรองเท้าสวย-สวยด้วยกันทั้งนั้น

ถึงไม่น่าแปลกที่หลายคนมักตัดสินใจซื้อรองเท้าเพราะว่า
 
'มันสวย ' มากกว่า 'มันพอดีกับเท้า'

และแม้มันจะใส่แล้วคับไปนิด...อึดอัดไปหน่อยก็ยังไม่วางมือ

เหตุเพราะว่า_______________มันสวยถูกใจ

หรือแม้มันจะราคาแพงลิบลิ่วก็ยังอยากเป็นเจ้าของให้ได้
- - - หากว่าเราต้องเดินทางอีกไกล - - -
แม้จะมีรองเท้าสวยหรู ราคาแพง ยี่ห้อแบรนด์เนมมันก็คงไม่มีประโยชน์

แม้จะสวยแค่ไหนแต่ถ้ามันทำเท้าเราเจ็บ...สุดท้ายก็คงต้องถอดมันออก

เพราะถ้าขืนเราเดินทั้งเท้าเจ็บ-เจ็บเราคงไปไม่ถึงปลายหนทาง

ค ว า ม รั ก ก็ เ ช่ น กั น 
&&&
เราอาจใฝ่ฝันที่จะมีคนรักสวย รวย เก่ง ฉลาด เลิศ หรู

..... แต่ความจริงแล้ว ....

เราเพียงต้องการคน-คนนั้นเพื่อให้ "ตัวเราดูดีขึ้นมา" เท่านั้นเอง

ฉันว่านะ....รองเท้าที่ใส่แล้วสบายไม่จำเป็นต้องสวยเด่นอะไร

เพราะฉะนั้น

คนที่จะมาจับจูงมือเราไปตลอดทางของชีวิตก็ไม่จำเป็น

ต้องเป็นคนที่ดีเลิศที่สุดจนใครนึกอิจฉา
แต่คงเป็น...คนที่เค้ารักเรา ดูแลเรา ดีต่อเราเข้าใจเราไม่ทำให้เราเจ็บ
ไม่ทำให้เสียใจ ซะมากกว่า...

บางที...การใส่รองเท้าที่เดินแล้วสบายมันอาจทำให้เรามีความสุขมากกว่า

เพราะฉันเชื่อว่ามันจะพาเราไปจนถึงจุดหมาย

โดยที่เราไม่ต้องเจ็บเท้าและนึกอยากจะโยนมันทิ้งไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

ตลอดการเดินทาง..

11 วิธี ใช้ข้าวของให้คุ้มค่า


 ยุคเงินเฟ้อ จะกินจะใช้ต้องรัดเข็มขัดจนเอวกิ่ว ข้าวของที่มีอยู่แล้วต้องใช้ให้คุ้มค่า ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย นิตยสาร "เฟิร์สต์" ฉบับ ส.ค.มีข้อแนะนำดีๆ ในการใช้ข้าวของให้ลองนำไปปฏิบัติ

1.ลิปสติก บางชนิดเนื้ออ่อนเหลวจนหักได้ง่าย ทั้งที่เพิ่งซื้อมาใช้ไม่นาน นำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยจุดเทียนไขลนเนื้อลิปสติกสองส่วนที่หักเข้าด้วยกัน ทิ้งให้เย็นตัวก็จะใช้ได้ใหม่
2.มาสคาร่า ถ้าแห้งแล้วไม่ต้องรีบร้อนซื้อใหม่ ให้เติมน้ำร้อน 4-5 หยด แล้วใช้แปรงปัดขนตากวนๆ ให้ทั่วก็ใช้ได้อีกนาน
3.ยาทาเล็บ ถ้าแห้งแข็งจนใช้ไม่ได้ อย่ารีบโยนทิ้ง เติมน้ำยาล้างเล็บลงไปหน่อย หรือแช่ขวดยาทาเล็บลงในน้ำเดือดสักครู่ ก็ใช้ได้อีกหลายครั้ง
4.เก็บรักษายาทาเล็บ ทุกครั้งหลังที่เลิกใช้แล้ว ให้นำยาทาเล็บใส่ตู้เย็น เท่านี้ก็ใช้ยาทาเล็บได้หมดจนหยดสุดท้าย
5.เสื้อผ้าขึ้นรา นำเสื้อไปแช่นมเปรี้ยว พอรุ่งเช้าบิดตากแดด อาจบีบมะนาวโรยซ้ำอีกนิด แค่นี้ก็ไม่ต้องทิ้งเสื้อตัวโปรดหรือซื้อใหม่ให้เสียเงิน
6.รองเท้า ปรับรองเท้าคัชชูดำคู่เก่าให้ดูใหม่ได้ ด้วยการใช้ยาย้อมผมสีดำทาให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้สัก 1-2 ชั่วโมง จากนั้นใช้ยาขัดรองเท้าขัดถูให้ดำเป็นเงางาม เท่านี้ก็เหมือนได้รองเท้าคู่ใหม่
7.เสื้อผ้าสีดำซีด มีวิธียืดอายุการใช้งาน คือเมื่อซักสะอาดแล้วนำไปแช่ครามซักผ้าขาว ทิ้งไว้ 5-10 นาที นำไปล้างน้ำสะอาดแล้วตาก ชุดเก่าจะดูใหม่ไปอีกระยะ
8.ถุงน่อง หลังซื้อมา อย่าเพิ่งใช้ทันทีให้ไปแช่น้ำก่อนเพื่อให้น้ำซึมซับอิ่มตัว บิดหมาดๆ นำไปแช่ในช่องทำน้ำแข็งจนเป็นน้ำแข็ง แล้วนำออกมาละลายน้ำแข็งตากให้แห้ง จะใช้งานได้นานกว่าปกติ
9.ซักผ้า หากผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ เพียงแค่นำสารส้มมาแกว่งในน้ำ แช่ผ้าที่เหม็นอับทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนนำมาซักปกติ แล้วตากแดดหรือตากลม
10.แก้ปัญหาผิวหน้ามัน วิธีขจัดคือนำมะนาวมาฝานเป็นเสี้ยวบางๆ แล้วแปะให้ทั่วใบหน้า แต่เว้นรอบดวงตาและปาก ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างน้ำสะอาด ทำบ่อยๆ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ปัญหาหน้ามันจะทุเลาลง
11.เล็บเหลือง แก้ปัญหาได้ด้วยการใช้มะนาวซีกเล็กๆ ขัดๆ ถูๆ เล็บมือสัก 5 นาที แล้วจึงนำมาล้างน้ำสะอาด เล็บมือจะขาวและเป็นเงางามจนน่าปลื้ม

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เคล็ดลับในการเลือกรองเท้าส้นสูง

รองเท้าส้นสูง ยังเป็นรองเท้ายอดนิยมสำหรับสาวๆ ตลอดกาล ใครตัวเล็กก็อยากดูสูงงามระหง ส่วนใครสูงยาวเข่าดีอยู่แล้วก็อยากสูงปรี๊ดขึ้นไปอีก นั่นก็เพราะส้นสูงช่วยให้ผู้หญิงเราสวยสง่า อยู่เสมอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับรองเท้าที่คุณหยิบจับมาสวมใส่ด้วย รองเท้าบางคู่จริงอยู่ดูภายนอก อาจจะสวยปิ๊ง แต่เมื่อมาอยู่บนปลายเท้าของคุณแล้ว อาจจะไม่เหมาะก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องมีเทคนิค ในการเลือกนิดหนึ่ง

รูปเท้า
เป็นสิ่งแรกที่สาวๆ ทั้งหลายควรพิจารณา เพราะถ้าเลือกแบบที่ไม่เข้ากับรูปเท้าแล้ว เราจะใส่รองเท้า คู่นั้นสวยได้อย่างไร

คนที่มีเท้าเรียว อวบ นูนได้รูป เวลาที่จะเลือกซื้อรองเท้าจะค่อนข้างได้เปรียบ เพราะเป็นรูปเท้าที่ได้ สัดส่วนสามารถรองเท้าใส่ง่ายและใส่แบบไหนก็ดูสวยหมด

ตรงข้ามกับคนที่มีเท้าลักษณะแบนราบ ควรเลือกรองเท้าที่มีลวดลายบริเวณด้านหน้าค่อนข้างกว้าง เพื่อช่วยบดบังส่วนที่เป็นจุดอ่อนของคุณ ส่วนรองเท้าแบบเปลือยไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีเท้าลักษณะ แบนราบสักเท่าไร เพราะเวลาที่ใส่แล้ว รองเท้าจะดูหลวมๆ ไม่เต็ม

สำหรับคนที่มีปลายเท้าบาน แนะนำว่าอย่าใส่รองเท้าที่มีปลายหัวแคบหรือแหลม เพราะมันจะบีบปลายเท้า ทำให้คุณเดินไม่สะดวก ถ้าจะให้ดีเลือกรองเท้าที่มีหัวกว้างหรือเหลี่ยมจะเข้าท่ากว่า

สีผิว
หลายคนมักจะสวมรองเท้าส้นสูงคู่กับถุงน่อง เพราะฉะนั้นเวลาที่เลือกซื้อรองเท้าควรสวมถุงน่องมาด้วย เพราะเมื่อถึงเวลาใช้งานจริง รองเท้าจะได้กลมกลืนกับสีถุงน่อง

ถ้าคุณเป็นผิวสีค่อนข้างคล้ำ อย่ากังวลว่าจะหารองเท้าที่เข้ากับสีผิวได้ยาก และอย่าเข้าใจผิดว่า สีสดใสอย่าง สีแดง สีส้ม สีเงิน และสีทอง จะตัดกับผิวคุณจนเกินไป จริงๆ แล้วสีที่ว่ามานี้จะเหมาะกับคุณมากกว่าโทนสีอ่อนเสียอีก

สำหรับคุณที่มีผิวขาว จะเหมาะกับรองเท้าที่มีสีโทนอ่อนนุ่มนวล เช่น ฟ้า ชมพู ม่วง หรือสีครีม เพราะสีอ่อน จะช่วยขับสีผิวที่เท้าและเรียวขาของคุณให้ดูนวลเนียน แต่ใครที่ชอบทาเล็บเท้า ทั้งสีเล็บเท้าและรองเท้าควรใกล้เคียงกันหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใส่รองเท้าแบบเปลือย เช่น หากทาเล็บเป็นสีชมพู สีรองเท้าก็ควรเป็นสีชมพูด้วย จะได้ดูกลมกลืนกันหน่อย 

วัสดุ
รองเท้าที่เราเลือกซื้อจะใส่สบายและทนทานขนาดไหน วัสดุที่เลือกใช้ก็สำคัญ พื้นด้านในควรทำจากยาง หรือโพลียูริเทน ซึ่งมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่น และให้ความนุ่มมากกว่ารองเท้าที่ทำจากหนัง เพื่อที่จะสะดวกในการรองรับน้ำหนัก ซับในที่ใช้บุรองเท้าควรทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่มีคุณภาพสูง เพราะจะช่วยในเรื่องของการระบาย ไม่ทำให้รองเท้า อับชื้น และเกิดกลิ่นเหม็นอับได้

ถ้าเป็นรองเท้าหนัง ก็ควรเป็นหนังชนิดที่มีความนุ่ม หรือถ้ารองเท้าก็ควรทำจากผ้าซาติน และใยผ้าที่มีส่วนผสม ของไลครา เพราะสามารถยืดหยุ่นตามสภาพการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ง่าย สายรองเท้า ก่อนซื้อควรสำรวจให้ดีว่า ขอบของสายรองเท้าจะต้องไม่คม ไม่บาดหรือเสียดสีเท้าของคุณ โดยเฉพาะช่วงที่ เป็นบริเวณของนิ้วเท้า

ถ้ารองเท้ามีขนาดสูงมากๆ เกินสองนิ้ว ควรจะมีสายรัดที่ข้อเท้าด้วย เพราะจะช่วยให้พยุงให้รองเท้ากระชับขึ้น ช่วยให้เดินสะดวกขึ้นด้วย ขนาดความยาวของสายรองเท้าไม่ควรสั้นจนเกินไป คือสามารถรัดรอบข้อเท้าของคุณได้พอดี นอกจากนี้ต้อง ไม่บางหรือเล็กจนเกินไปด้วย เพราะเส้นยิ่งเล็กก็จะไปกดผิวเนื้อ ทำให้เกิดอาการแสบและเป็นรอยด้านได้ใน เวลาต่อมา โอกาสที่จะใช้ สไตล์ของรองเท้าคือสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามเพราะมันจะบอกถึงรสนิยมความเป็นตัวคุณ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้อง ดูโอกาสที่เราจะนำไปใส่ได้ด้วย

ถ้าเป็นรองเท้าที่ใส่ไปทำงาน สมัครงาน หรือติดต่อราชการ ควรเป็นรองเท้าที่ปิดหุ้มส้น เพราะแลดูสุภาพเรียบร้อย มากกว่ารองเท้าที่โชว์เท้าเปลือย
แต่ถ้าเป็นวันสบายๆ เช่น ไปเที่ยวพักผ่อนหรือเดินช็อปปิ้ง อาจจะเลือกรองเท้าแบบส้นแบนติดพื้น หรือส้นสูง พอประมาณ หรือแบบเปลือยเก๋ๆ ก็ได้ เพราะจะช่วยให้เดินสบายได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเมื่อยเท้า

วิธีแก้รองเท้ากัด

ใครที่ซื้อรองเท้ามาใหม่ พอใส่แล้วเกิดปัญหา “รองเทากัด” วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีแก้มาฝากกัน
- ทาปิโตรเลียมเจล ไว้ด้านในรองเท้า ทิ้งไว้ข้ามคืน เช็ดออกด้วยผ้าให้สะอาดแล้วค่อยสวมรองเท้า
- ทาน้ำมันมะพร้าว ไว้ด้านในรองเท้า สามคืนติดต่อกัน น้ำมันนี้จะช่วยให้รองเท้านุ่มขึ้น แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบความมัน ก็ลองฝานมันฝรั่งดิบเป็นแผ่น ๆ วางไว้ด้านในรองเท้า โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้า ทำซ้ำแบบนี้สองคืน
แต่ถึงแม้ที่จะพยายามป้องกันไม่ให้รองเท้ามากัดแล้ว แต่ก็ยังมีการขบเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เท้าเกิดแผล
วิธีการรักษาและลดอาการเจ็บ
- ใช้แป้งข้าวเจ้าผสมน้ำให้พอข้น ทาบนบริเวณที่โดนรองเท้ากัด ทิ้งไว้จนแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้ง จะช่วยลดความเจ็บแสบลง
- ใช้ใบสะเดาสองสามใบ ผสมกับผงขมิ้น เติมน้ำ แล้วบดผสมกันให้กลายเป็นครีมข้น ทาลงบนแผลรองเท้ากัด วิธีนี้จะช่วยลดอาการเจ็บลงได้อย่างมาก อีกทั้งยังช่วยให้แผลแห้ง
ถ้าจะใส่รองเท้าคู่ใหม่ครั้งต่อไป แล้วประสบปัญหารองเท้ากัด ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติกันดูได้

เตือนภัยก่อนสวมใส่ “รองเท้าติดล้อ”



แลดูภายนอกรองเท้าติดล้อ หรือ “ฮีลลีส์” ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆ ก็เหมือนกับรองเท้าออกกำลังทั่วไป ข้อแตกต่างมีอยู่นิดเดียวตรงที่รองเท้าชนิดนี้มีล้อติดอยู่ที่พื้นรองเท้า และนี่คือที่มาของปัญหากับคำเตือนจากแพทย์โรคกระดูก
ผู้ปกครองอาจจะซื้อรองเท้าติดล้อให้ลูกหลานใส่ โดยนึกไม่ถึงว่ามันจะนำอันตรายมาให้ แต่แพทย์จากไอร์แลนด์ถึงสิงคโปร์ ต่างรายงานตรงกันว่าได้เคยรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อมือ แขน และข้อศอก แก่เด็กที่ใส่รองเท้าแบบนี้กันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย
โฆษกของคณะกรรมการคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา แจ้งว่า จากข้อมูลระหว่างเดือนกันยายน 2548 ถึงธันวาคม 2549 มีรายงานการเสียชีวิต 1 รายและอีก 64 รายบาดเจ็บ
ส่วนที่สิงคโปร์ก็พบว่ามีเด็ก 37 รายบาดเจ็บจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในช่วงระยะเวลา 7 เดือนของปี 2547 และทั้งหมดนั้นไม่ได้มีเครื่องอุปกรณ์ป้องกันแต่อย่างใด
ล่าสุด เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้ สมาคมศัลยแพทย์กระดูกอเมริกา ที่รัฐอิลลินอยส์ เห็นสมควรว่าต้องออกมาตรการด้านความปลอดภัยแก่ผู้ที่จะใช้รองเท้าติดล้อ โดย แนะนำว่าจะต้องสวมใส่หมวกกันน็อกมีเครื่องป้องกันที่ข้อมือ เข่า และแผ่นรองข้อศอก ถ้าเด็กตัดสินใจจะใส่รองเท้าแบบนี้
เพราะจากข้อมูลพบว่าพวกมือใหม่นั่นเอง ที่มักจะได้รับบาดเจ็บอันเกิดจากการทรงตัวไม่ดีแล้วล้มลง จนกระดูกแตกหักในหลายที่ ไหนๆ รักจะทันสมัยใหม่เสมอกันแล้ว ก็ต้องรู้จักป้องกันภัยกันไว้ก่อนดีกว่า.

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ 

เตือนใส่รองเท้าหัวจรวด "ระวังเชื้อรา"

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูฝน ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ และป้องกันการเจ็บป่วยจากโรค เช่น ท้องร่วง ไข้ฉี่หนู ไข้หวัด ไข้เลือดออก ไข้สมองอักเสบ ตาแดง น้ำกัดเท้าหรือฮ่องกงฟู้ต ฯลฯ ทั้งนี้ในฤดูดังกล่าวจะมีโรคที่เกิดจากเชื้อ 3 กลุ่ม ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อราซึ่งพบบ่อย คือ น้ำกัดเท้า
"สาเหตุเกิดจากการแช่เท้าในน้ำสกปรกนานๆ ทำให้ผิวหนังบริเวณง่ามนิ้วเท้าอักเสบ เจ็บ มีอาการคัน หนังเปื่อยลอก เชื้อราเหล่านี้จะกินเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเป็นอาหาร ฉะนั้นยิ่งเท้าเปียกชื้นนานเชื้อราจะยิ่งเติบโตง่าย และลุกลามไปเรื่อยๆ มีกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจ ดังนั้น จึงควรป้องกันโรคนี้ด้วยการล้างเท้าให้สะอาด เช็ดเท้าให้แห้ง ใช้แป้งโรยซอกนิ้วเท้า เป็นต้น นพ.ธวัชกล่าว และว่า สำหรับผู้ชายและหญิงที่ชอบสวมใส่ถุงเท้า และรองเท้าหัวแหลม หรือรองเท้าหัวจรวด รวมทั้งบู๊ท หัวรองเท้าประเภทนี้จะเล็ก เรียว และบีบนิ้วเท้าทำให้เกิดความอับชื้น ซึ่งเป็นแหล่งเกิดเชื้อราได้อย่างดี ทั้งนี้หากรองเท้าเปียกให้นำไปผึ่งลม ตากแดดให้แห้ง เพื่อลดการหมักหมมของเชื้อโรค
นพ.ธวัชกล่าวว่า รองเท้าที่เหมาะกับการสวมใส่ในช่วงฤดูฝน คือ รองเท้าที่ปลายไม่แหลมมาก ทำความสะอาดง่าย เช่น รองเท้าหนัง รองเท้ารัดส้น หรือ รองเท้ายาง
ที่มา นสพ. ข่าวสด

Flat / Ballet shoes / รองเท้าส้นแบน


Flat / Ballet shoes / รองเท้าส้นแบน
ผู้หญิงทุกคนควรมีรองเท้าส้นแบนแบบที่มีสายคาดบริเวณข้อเท้า(Velcro) แบบที่เรียกกันว่าสไตล์ แมรี เจนส์ อย่างน้อยคนละหนึ่งคู่ สำหรับวันพักผ่อนสบายๆ

Tips to wear
- รองเท้าส้นเตี้ยจะดูเก๋มากขึ้น เมื่อสวมคู่กับกางเกงสี่ส่วนทรงคาปรี หรือ กางเกงยีนส์ทรงกระบอกความยาว 5 ส่วน
- สาวๆ ที่มีข้อเท้าสมส่วนและปลีน่องเพรียวยาว จะใส่รองเท้าส้นแบนได้สวยเป็นพิเศษจ้ะ
-กระโปรงบานลายดอกไม้หรือกระโปรงยีนส์สั้นจะทำให้คุณดูน่ารักมากขึ้น เมื่อใส่คู่กับรองเท้าส้นแบน

Pump / High Heel /รองเท้าแคชชูส์ รองเท้าส้นสูง

เป็นรองเท้ายอดนิยมของคุณผู้หญิงทุกคน สามารถใส่ได้ทั้งกับกางเกงและกระโปรง ถ้าคุณใส่รองเท้าแคชชูส์กับกางเกงสเเล็คทรงตรง หรือกระโปรงทรงสอบความยาวเหนือเข่า คุณจะกลายเป็นสาวทำงานสุดเนี้ยบ

Tips to wear

-รองเท้าแคชชูส์หัวแหลมส้นสูงประมาณ 2.5 นิ้วจะทำให้คุณดูสูงเพรียวขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
-เมื่อต้องสวมรองเท้ามิดชิดแบบนี้ แนะนำว่าควรเลือกรองเท้าที่ทำจากหนังแท้ ราคาอาจจะสูงขึ้นอีกนิดแต่รับรองว่าคุ้มแน่ เพราะหนังแท้จะยืดหยุ่นได้ตามรูปเท้าของผู้สวม และถ้าใส่ไปนานๆ หนังจะยิ่งนิ่ม สวมสบาย
-รองเท้าที่ใส่ไปทำงานเป็นประจำ ควรเลือกที่สีไม่ฉูดฉาด และรูปทรงที่ดูคลาสสิค เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและไม่ล้าสมัย

Platform Shoes / Wadge

รองเท้าส้นตึกเป็นรองเท้าที่ได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นยุค 70’s เมื่อใส่รองเท้าประเภทนี้แล้วสาวๆ จะได้ ลุคที่ดูเก๋ไก๋ เป็นสาวเรโทรนิดๆ เหมาะจะใส่กับเสื้อผ้ามีเนื้อบางเบา หรือ ลายกราฟฟิคเก๋ๆ

Tips to wear

-คุณจะดูเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ดทันสมัยมากขึ้น ถ้าใส่รองเท้าส้นหนากับกางเกงยีนส์ทรงตรงพอดีตัว หรือกระโปรงยาวพอดีเข่า
- ก่อนตัดสินใจซื้อรองเท้าส้นตึก ควรลองสวมเดินไปมาซักพัก เพื่อให้แน่ใจว่า เข็มขัดหรือสายรัดข้อเท้าไม่ทำให้คุณเจ็บเมื่อต้องเดินเป็นเวลานาน
- ส้นรองเท้าแบบสานหรือแบบที่มีลวดลายกราฟฟิคจะช่วยให้คุณดูทันสมัยและใส่กับเสื้อผ้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น

Mule / Heel Sandal /รองเท้าแตะแบบมีส้น

ลุคของหญิงสาวในวันสบายๆ สามารถใส่กับกระโปรงผ้าพลิ้วสั้น หรือยาวก็สวยดี ควรเลือกแบบมีส้นอย่างน้อยสองนิ้วกำลังสวย

Tips to wear
-สำหรับรองเท้าแตะแบบมีส้นเหมาะกับกระโปรงหรือเดรสผ้าพลิ้ว เพราะจะทำให้คุณดูเป็นหญิงสาวอ่อนหวาน
-คุณจะดูเซ็กซี่มากเมื่อใส่รองเท้าส้นเข็ม กับเดรสสั้นสีดำ
-เวลาเลือกซื้อรองเท้าสไตล์นี้ ควรเลือกขนาดใหญ่กว่าปกติครึ่งเบอร์เพราะส้นเท้าที่พอดีกับรองเท้าเป๊ะอาจจะทำให้ส้นเท้าของคุณดูไม่สวยได้

Tips to buy

+หลายคนเลือกที่จะซื้อรองเท้าเพราะความน่ารัก แสนกิ๊บเก๋ แต่สุดท้ายต้องมาจบลงที่พลาสเตอร์ชิ้นเล็กๆ ติดอยู่ตามนิ้วเท้า และรองเท้าที่เก็บอยู่ในกล่องนับเป็นบทเรียนราคาแพงทีเดียว ฉะนั้น ยืดระยะเวลาตัดสินใจอีกนิด เมื่อเจอรองเท้าแบบเก๋แต่ไม่แน่ใจว่าราคาที่ต้องจ่ายจะคุ้มกับโอกาสใช้งานหรือไม่ ตัดสินใจกลับบ้านมือเปล่าก่อน ถ้าพรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาพร้อมกับความคิดถึงรองเท้าคู่เดิมเป็นอย่างแรก ค่อยรีบไปซื้อมา

+เบอร์นี้ไม่ใช่คุณเสมอไป สำหรับรองเท้าบางยี่ห้อ เบอร์ 5 คือขนาดของเท้าคุณ แต่สำหรับยี่ห้ออื่นอาจจะเป็น เบอร์ 7 ก็ได้ อย่าเกรงใจที่จะ

ขอลองรองเท้า แม้จะเป็นขนาดใหญ่หรือเล็กลงกว่าเบอร์ปกติเพียงเล็กน้อย เพราะมาตรฐานการวัดและตัดเย็บของแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน ควรเลือกคู่ที่คุณรู้สึกว่าสวมใส่สบายและกระชับเท้าที่สุด

+มองจากกระจกบานเต็มเสมอ เป็นทางเดียวที่คุณจะรู้ว่ารองเท้าคู่นั้น ใส่แล้วดูเก๋อย่างที่พนักงานขายบอกหรือไม่ การเลือกส่องกระจกบานใหญ่ที่จะทำให้คุณเห็นว่ารองเท้านั้นเหมาะกับบุคลิก รูปร่างและ การแต่งกายของคุณหรือไม่

+รองเท้าดีต้องทดลองเดิน เมื่อเลือกรองเท้าคู่ที่ถูกใจได้แล้ว ลองเดินกลับไปมาซัก สอง สามรอบ ไม่ใช่สองสามก้าว เพราะรองเท้าบางคู่ใส่นิ่งๆ ก็พอดีแต่พอก้าวเดินแล้วลื่นหลุดก็มี

+ลองขยับเท้าสร้างความมั่นใจ หลังจากที่ลองเดินไป มาแล้ว ลองขยับนิ้วเท้าของคุณ เช็คดูว่าหัวรองเท้าบีบนิ้วเท้าทั้งห้าของคุณหรือเปล่า ถ้าลองขยับนิ้วแล้วรู้สึกตึงๆ ล่ะก็ เชื่อได้ว่าเดี๋ยวคุณต้องซื้อ พลาสเตอร์เป็นของแถมแน่นอน

+ทำการบ้านเยอะๆ ก่อนเลือกซื้อ วิธีเลือกรองเท้าแต่ละประเภทมีเทคนิคแตกต่างกันไป เช่นถ้าเป็นรองเท้าแบบสวมให้เลือกรองเท้าขนาดใหญ่กว่าปกติประมาณครึ่งเบอร์ หรือถ้าเป็นรองเท้าที่ต้องสวมถุงเท้า เช่น รองเท้าผ้าใบหรือบู๊ทบางแบบ เวลาลองควรสวมถุงเท้าด้วย

+ก่อนซื้อรองเท้า ลองวัดขนาดของเท้าทั้งสองข้าง เลือกเบอร์รองเท้าตามเท้าข้างที่ใหญ่เป็นหลัก

+เลือกซื้อรองเท้าตอนบ่ายดีกว่าตอนเช้า เพราะขนาดของเท้าจะขยายมากที่สุดใน

Tips for Take Care your Shoes

+ใช้ไม้รองรองเท้าใส่ไว้ในรองเท้าก่อนเก็บเสมอ รูปทรงของรองเท้าจะคงอยู่ ไม่ผิดรูปไปจากวันแรกที่ซื้อมากนัก

+กระดาษหนังสือพิมพ์ใช้ใส่เพื่อรักษารูปทรงได้ไม่ดีนัก เพราะ ตัวกระดาษจะดูดความชุ่มชื้นของหนังรองเท้า นานไปจะทำให้รองเท้าแข็งกระด้าง

+ไม่ควรใส่รองเท้าคู่เดิมทุกๆ วัน การสลับรองเท้าใส่จะทำให้อายุการใช้งานของรองเท้ายาวนานขึ้น

+เมื่อรองเท้าคู่โปรดเปียกน้ำ อย่าใช้ไดร์เป่าผมทำให้แห้งโดยเด็ดขาด ให้ผึ่งรองเท้าไว้ในที่มีลมโกรก ก่อนรองเท้าจะแห้งให้ใช้ไม้รองเท้าใส่

เพื่อเป็นการรักษารูปทรง

Tips to fine Special Size

+รู้ไหมว่าบางแบรนด์ผลิตรองเท้าสำหรับรูปเท้าที่แตกต่างกัน เช่น รองเท้ากีฬา New Balance มีขนาดตามความกว้างของหน้าเท้า, Birkenstock มีบริการซื้อ ขายรองเท้าข้างเดียวเพื่อจับคู่ให้รองเท้าข้างที่เหลือ, Liz Claiborne ออกแบบรองเท้าตามขนาดของเสื้อผ้าเพื่อสาวๆ เอวบางร่างน้อยโดยเฉพาะ

+ใช้ Catalog on line ให้เป็นประโยชน์ หลายๆ เว็บไซต์ เช่น EddieBauer.com , LandsEnd.com , JCrew.com และ JJill.com มีเสื้อผ้าตามขนาดความสูงต่างๆ บางครั้งอาจจะมีรองเท้าที่เหมาะกับรูปเท้าแบบต่างๆ เช่นเดียวกัน

Tips to Match

+เลือกสวมใส่รองเท้าให้เหมาะกับเสื้อผ้าและโอกาสการใช้งาน ถ้าทำงานสบายๆ คุณสามารถใส่รองเท้าส้นแบน หรือรองเท้าหนังแบบ Loafers แต่ในวันทำงานที่ต้องมีการพบปะผู้คนมากมาย ควรใส่รองเท้าส้นสูงเท่านั้น วันหยุดที่มีนัด รองเท้าส้นสูงที่มีสายคาดหลังเท้าจะทำให้คุณสวยสง่าแบบลำลองได้ และสำหรับวันพักผ่อน รองเท้าแตะแบบมีส้นนิดๆ จะเหมาะสมที่สุด

+การเลือกสีของรองเท้าที่ชาญฉลาดทำให้คุณดูเหมือนมีรองเท้าหลายคู่ สีดำเป็นสีพื้นฐานสำหรับสาวนักบริหาร สีน้ำเงินเข้มดูสุภาพและเข้ากันได้กับเสื้อผ้าแทบทุกเฉด และคุณจะดูสบายๆ ขณะเดียวกันก็ดูสุภาพในรองเท้าสีน้ำตาล

+ถ้าคุณใส่เสื้อผ้าที่มีลวดลายมากอยู่แล้ว การเลือกรองเท้าสีพื้นจะช่วยลดทอนความแรงของลายเสื้อได้

+กางเกงยีนส์สีเข้ม เข้ากันได้ดีกับรองเท้าหนังสีเข้มเช่นเดียวกัน

+เมื่อสวมกางเกงยีนส์สำหรับวันพักผ่อน รองเท้าส้นสูงสีสดจะทำให้การแต่งตัวของคุณสนุกขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

+สำคัญมาก ทุกครั้งที่สวมรองเท้าโชว์นิ้วเท้า เล็บเท้าควรตัดสั้นและสะอาดอยู่เสมอ